วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๖.๓๐ น. นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. พร้อมด้วย นายประเสริฐ กาญจนเกียรติกุล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ ส.ป.ก. บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จากการขอใช้พื้นที่บริเวณที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งของจุดผ่อนปรน โดยจะพัฒนาเป็นด่านการค้าชายแดนในอนาคต ซึ่งอยู่ในแผนพัฒนาตามยุทธศาสตร์จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา กรมอุทยาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื้อที่ประมาณ ๒๐๐ ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างและขยายทางหลวงเดิมเส้นบ้านกรวด - ช่องสายตะกู จาก ๒ เลน เป็น ๔ เลน) ผ่านเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดินโครงการป่าบ้านกรวดแปลง ๕ ความยาวประมาณ ๒,๐๖๕ เมตร กระทบแปลงรังวัด ส.ป.ก. จำนวน ๗๕ แปลง (จัดที่ดินแล้ว) คิดเป็นพื้นที่ประมาณ ๒๘-๓-๖๕ ไร่
ทั้งนี้ ฝั่งตรงข้ามชายแดนช่องสายตะกูเป็นช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา และเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการค้าบริเวณจุดผ่านแดนช่องสายตะกู - ช่องจุ๊บโกกี ได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์ด้านการค้า การท่องเที่ยวและโลจิสติกส์เป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงที่สั้นที่สุดจาก กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา - บุรีรัมย์ - อุดรมีชัย - เสียมเรียบ (นครวัด นครธม) ด้วยระยะทาง ๖๑๐ กม. เท่านั้น มีจุดแลกเปลี่ยนสินค้าห่างกันประมาณ ๒ กม. ประเภทสินค้าที่นำมาจำหน่าย ประกอบด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค ของป่า เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้ามือสอง ผลไม้ และสินค้าเบ็ดเตล็ด หลังจากเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี อนาคตของจังหวัดบุรีรัมย์ จะกลายเป็นเส้นทางขนส่ง และกระจายสินค้าเพื่อรองรับการขับเคลื่อนสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ตอบสนองนโยบายของรัฐ และการเจริญเติบโตทางเศรษกิจ ในเบื้องต้น ส.ป.ก.บุรีรัมย์ ได้พิจารณาระเบียบ ข้อกฎหมายที่มีในปัจจุบัน และแนวทางที่ ส.ป.ก. ได้เคยดำเนินการในกรณีที่คล้ายกันนี้ไปแล้วในพื้นที่จังหวัดพะเยา มาปรับใช้เพื่อให้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศต่อไป
หลังจากนั้น รองเลขาธิการ ส.ป.ก. และคณะ เดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ โดยมีนายสมหมาย ไชยนิจ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ตลอดจนเดินทางไปพบปะเกษตรกรในพื้นที่โครงการป่าโคกโจด (แปลงที่ ๒) หมู่ที่ ๑๗ บ้านหนองไผ่ ต.สตึก (เทศบาลตำบลศรีสตึกติดกับ ต.ร่อนทอง) อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ ๑๗๕-๒-๐๖ ไร่ตามโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๓๑/๒๕๖๐ พร้อมทั้งร่วมกันหาแนวแนวทางชดเชยและเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผกระทบจากการขออนุญาตใช้ที่ดินฯ เนื้อที่ประมาณ ๑๖๗-๐-๑๓ ไร่ เป็นจำนวนเนื้อที่ผู้ขออนุญาตใช้ที่ดินฯ (กรมท่าอากาศยาน) ต้องดำเนินการชดเชย/เยียวยา ให้กับผู้ถูกผลกระทบ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างอนุมัติหลักการต่อ ครม.
ข่าว - ธิดารัตน์ ซุ้ยขาว
ภาพ – ธิดารัตน์ ซุ้ยขาว/กมลชนก แพวขุนทด