สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ส.ป.ก. พร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีเกษตรฯ

     นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมด้วย นายสุรชัย ยุทธชนะ นายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการ ส.ป.ก. ผู้อำนวยการสำนักฯ / กอง / ศูนย์ ผู้เชี่ยวชาญฯ ปฏิรูปที่ดินจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รับมอบนโยบายจาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) นายอิทธิ ศิริลัทธยากร นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ โรงแรมรอยัล ริเวอร์ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30 กันยายน 2567

โดย รมช.กษ. ยึดหลักการทำงาน คือ พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และเน้นการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านการเกษตรและวิสัยทัศน์ lgnite Thailand โดยจะยังคงสานต่อ 9 นโยบายสำคัญ ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย ของกระทรวงเกษตรฯ มุ่งให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างต่อเนื่อง และช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกรไทยให้อยู่ดีกินดี สินค้าเกษตรมีมูลค่าสูง และทรัพยากรเกษตรยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายเรื่อง การเร่งรัดการจัดทำที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร ส.ป.ก. พร้อมกับ แนวทางการขับเคลื่อนงาน ปี 2568 ดังนี้

1. การขับเคลื่อนโฉนดเพื่อการเกษตรขอให้เร่งรัดดำเนินการภายใน 1 ปี และยกระดับที่ดินเพื่อการเกษตรที่มีความเสมอเหมือนที่ดินของกรมที่ดิน

2. สำรวจและจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแผน 20 ปีเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน

3. การตรวจสอบการถือครองโดยมิชอบ และนำมาจัดให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน

4. เร่งรัดการจัดที่ดินชุมชน การจัดสถานะผู้ที่อาศัยให้ถูกต้องตามกฏหมายปฏิรูปที่ดิน

5. ผลักดันการแก้ไขกฎหมายด้านการปฏิรูปที่ดิน และปรับปรุงระเบียบให้อนุวัฒน์ ให้ทันจะกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อรองรับกับการทำงานของ ส.ป.ก.

6. การเพิ่มประสิทธิภาพของกองทุนปฏิรูปที่ดิน โดยยกระดับการจัดเก็บหนี้ การจัดเก็บรายได้ผ่านระบบสาระสนเทศ และการพัฒนาทุนหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกร

7. พัฒนาศักยภาพเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร พัฒนาอาชีพ

8. ปรับปรุงโครงสร้างและอัตรากำลังของ ส.ป.ก. ให้สอดคล้องกับการใช้งานในปัจจุบัน

9. การพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ สามารถปฏิบัติงานให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร

10. การปลูกฝังและยึดมั่นจริยธรรม ปฏิบัติราชการ ด้วยความสุจริตโปร่งใส

รมช.กษ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่จะบรรลุเป้าหมายต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคลากรของ ส.ป.ก. เอง รวมถึงความร่วมมือในการทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานทั้ง จากภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนภาคีต่าง ๆ และที่สำคัญ คือความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจจากพี่น้องเกษตรกรไทย และคนในภาคการเกษตรทุก ๆ ฝ่ายไปพร้อมกัน

ข่าว : ภาคีนัย กลิ่นกุล

ภาพ : อลงกรณ์ ซอนจำปา, ภาคีนัย กลิ่นกุล