กรกฎาคม 13, 2567 | กิจกรรม ส.ป.ก.
เลขาธิการ ส.ป.ก. นำทัพผู้บริหาร เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณปี 2568
วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 9.00 น. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข (เลขาธิการ ส.ป.ก.) พร้อมด้วยนายสุรชัย ยุทธชนะ (รองเลขาธิการ) นายอุกฤษฎ์ อินทาภรณ์ (ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและแผนงาน) นายสรรเพชร พูลศิริ (ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน) และนางสาวยุพเรศ เพิ่มพูน (ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย) เป็นตัวแทนเข้าชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีคณะผู้บริหาร ผู้แทนสำนัก/กอง/ศูนย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมสนับสนุนข้อมูลประกอบการชี้แจงงบประมาณ ห้องประชุมกรรมาธิการ ชั้น 4 อาคารรัฐสภา วงเงิน 1,825.0876 ล้านบาท เป็นเงินตาม พ.ร.บ. 68 จำนวน 1,525.0876 ล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ (กองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) จำนวน 300 ล้านบาท
ในการเข้าชี้แจงครั้งนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับการดำเนินงานของ ส.ป.ก. ในหลายประเด็น อาทิ การแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน การประกาศเขตปฏิรูปที่ดินครอบคลุมทั้งอำเภอ การปรับปรุงแผนที่ RTK ความคืบหน้า One map การปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย แผนงานจัดที่ดินระยะยาวจนถึงปี 71 แผนการสนับสนุนโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของงานพัฒนาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับรองมาตรฐาน GAP การก่อสร้างฝายชะลอน้ำแบบชั่วคราว และการบังคับใช้มาตรการลดเผาในเขต ส.ป.ก.
สำหรับกิจกรรมปรับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ก็เป็นอีกประเด็นที่คณะกรรมาธิการได้ให้ความสนใจ โดยมีการสอบถามถึงแนวทางในการต่อยอดเพิ่มมูลค่าไปสู่โครงการคาร์บอนเครดิต รวมทั้งการนำโฉนดเพื่อการเกษตรไปค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินอื่น (นอกเหนือจาก ธ.ก.ส.) และใช้เป็นหลักฐานในการประกันตัวผู้ต้องหา เป็นต้น
สุดท้ายนี้ ส.ป.ก. เป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีภารกิจเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดูแลทุกข์สุขของพี่น้องเกษตรกรที่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จึงคาดหวังให้ ส.ป.ก. จัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด เพื่อยกระดับชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่มั่นคง ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนต่อไป
………………………………………………………………
เรียบเรียง/ภาพข่าว: กลุ่มนโยบาย แผนงานและงบประมาณ สำนักวิชาการและแผนงาน