ตุลาคม 27, 2566 | กิจกรรม ส.ป.ก.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดการสัมมนาวิชาการ "การพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก."
วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาวิชาการ "การพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก." โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวรายงาน พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สังกัด ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร (ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร) ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
ภายในงาน รมว.กษ. ได้รับชมวิดีทัศน์ผลการดำเนินงาน เรื่อง "พื้นที่รูปธรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก.". พร้อมกล่าวเปิดงานสัมมนาฯ โดยมีแขกผู้มีเกียรติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงานอย่างคับคั่ง จากนั้นได้มีการเยี่ยมชมนิทรรศการฯ โดยมี นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนา องค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) นำเสนอบทบาทในการสนับสนุน ขับเคลื่อน พัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก. และ นายละอองดาว สีลาน้ำเที่ยง ผู้แทนขบวนการบ้านมั่นคงชนบทในที่ดิน ส.ป.ก. รายงานความคืบหน้าฯ
โครงการสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปบทเรียนการดำเนินงานที่ผ่านมา เชื่อมโยงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างขบวนเครือข่ายองค์กรชุมชนบ้านมั่นคงชนบทในที่ดิน ส.ป.ก.และหน่วยงานภาคีพัฒนา และร่วมกันออกแบบแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินทุกมิติ และขยายผลการดำเนินงานสู่หน่วยงานที่ดินประเภทอื่น ๆ
ทั้งนี้ จากการบูรณาการขับเคลื่อนภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 9 หน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ได้ดำเนินการก่อสร้างถนนไปแล้วทั้งสิ้น 233 กิโลเมตร ก่อสร้างแหล่งน้ำ 269 โครงการ ขยายเขตไฟฟ้า 1,891 หลัง และในด้านการสนับสนุนบ้านพักอาศัย ซึ่งมีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เข้ามาร่วมบูรณาการขับเคลื่อน โดยสบทบทุนสร้างบ้านให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 1,690 หลัง เป็นงบประมาณทั้งสิ้น 70,120,000 บาท สามารถตอบสนองต่อปัจจัยขั้นพื้นฐานให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน และมีการขยายผลการดำเนินงานเพิ่มเติมภายใต้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 16 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมีความร่วมมือเพิ่มเติมในกระบวนงานจัดผังที่ดินชุมชน สนับสนุนการรวมกลุ่ม สร้างความเข้มแข็ง พร้อมระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ จะส่งผลให้ปัญหาความเหลือมล้ำของสังคมลดลงไปได้ และสามารถช่วยให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินเข้าถึงบริการของรัฐ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น พร้อมเพิ่มความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันภาคการเกษตรต่อไป
"การส่งเสริมให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน จะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงในเรื่องที่ดิน ที่อยู่อาศัย การพัฒนาอาชีพรายได้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติ ซึ่งการดำเนินการในพื้นที่ ส.ป.ก. นี้ กระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จะเข้ามาพัฒนาและสนับสนุนปัจจัยขั้นพื้นฐาน น้ำต้องไหล ไฟต้องสว่าง ถนนหนทางต้องมี รวมทั้งส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร โดยใช้ตลาดนำ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันในการยกคุณภาพชีวิตของคนฐานรากให้เข้มแข็ง สังคมก็จะมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน" ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้าย
ข่าว : ดาริน เพชรานันท์, สุริยะ ลิภตะไชยโย
ภาพ : สมเกียรติ ดีมั่น, ภาคีนัย กลิ่นกุล, สมชาติ รัตนมาลี