ผ่านฉลุย! คปก. ไฟเขียว กรมการขนส่งทางบกใช้ที่ดิน ส.ป.ก. สร้างศูนย์เปลี่ยนถ่าย-ขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย
เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๓๐ น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ ส.ป.ก. ถ.ราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณาอนุญาตการใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อกิจการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และประโยชน์สาธารณะของประเทศ การอนุมัติจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและการให้บริการแก่พี่น้องเกษตรกร รวมถึงการติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า (รมช.กษ.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาอนุญาตให้กรมการขนส่งทางบกใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินดำเนินโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด่านพรมแดนเชียงของ ติดกับสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ ๔ จำนวน ๒๐๖ ไร่ ๑ งาน ๕๗.๖ ตารางวา จากมีพื้นที่โครงการรวม ๓๓๕ ไร่ ๑ งาน ๘๒ ตารางวา โดยโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายและกระจายสินค้าบรรจุตู้คอนเทนเนอร์หรือสินค้าบรรจุหีบห่อ (Break-Bulk Cargoes) เพื่อการส่งออกและนำเข้าในลักษณะจุดให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าชายแดนไทย-ลาว-จีน ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๔ และถนนสาย R3A รวมถึงการยกระดับมาตรฐานการขนส่งสินค้า รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียนและการเติบโตด้านฝั่งตะวันตกของจีน ซึ่งไม่มีทางออกสู่ทะเล (Landlocked) และการรองรับการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าจากถนนสู่ระบบราง ซึ่งจะทำให้อำเภอเชียงของ กลายเป็นเมืองหลักด้านโลจิสติกส์ (Logistic Hub) และเป็นอีกหัวใจสำคัญในการแปลงโฉมจังหวัดเชียงรายให้เป็นโลจิสติกส์ซิตี้ของภูมิภาค เพื่อพัฒนาไปสู่ประตูการค้าตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) นอกจากนี้เมื่อโครงการเปิดให้บริการแล้วจะก่อให้เกิดการจ้างงานและการกระจายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศและในเขตปฏิรูปที่ดิน และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศหลังวิกฤติ COVID-19 อีกด้วย
พร้อมกันนี้ เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้ ส.ป.ก. จัดซื้อกล้องสำรวจแบบประมวลผลรวม (Total Station) ทดแทนเครื่องเดิม จำนวน ๑๗ ชุด วงเงิน ๖,๒๕๖,๐๐๐ บาท และเครื่องหาพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (GNSS แบบ Rover) จำนวน ๔๕ ชุด วงเงิน ๑๔,๑๗๕,๐๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและการให้บริการแก่พี่น้องเกษตรกรของ ส.ป.ก. ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ การถือครองที่ดินและการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสม รวมถึงการสำรวจรังวัดแปลงที่ดินและการจัดทำแผนที่รูปแปลงที่ดินให้มีความถูกต้อง แม่นยำ ตรงกับสภาพพื้นที่ภูมิประเทศจริง ซึ่งจะทำให้ ส.ป.ก. สามารถสำรวจรังวัดและตรวจสอบพื้นที่ได้รวดเร็วขึ้นจากแผนงานปกติถึงร้อยละ ๓๐ และยังช่วยลดระยะเวลาการสำรวจรังวัดเพื่อออก ส.ป.ก. ๔-๐๑ ให้แก่เกษตรกรได้ภายใน ๑๘๐ วัน ตามนโนบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กษ. นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมพร้อมของ ส.ป.ก. เพื่อรองรับเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐ One Map และการจัดทำแผนที่ฐาน Base Map มาตราส่วน ๑ : ๔,๐๐๐ ของประเทศไทย (ONE DATUM) ในระบบดิจิทัล (Big Data)
ขณะที่การประชุมในวันนี้ คปก. ยังได้มีการติดตามผลการดำเนินงานของ ส.ป.ก. ในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ภายใต้ขอบเขตภารกิจของ ส.ป.ก. เพื่อเติมเต็มความช่วยเหลือให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากมาตรการที่รัฐบาลได้ออกมาช่วยเหลือและดูแลพี่น้องเกษตรกรตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า (รมช.กษ.) ส.ป.ก. จึงได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินด้านการเงินประกอบด้วยมาตรการลดภาระหนี้สิน และมาตรการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยมาตรการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้กำหนดวงเงินช่วยเหลือไว้ถึง ๔๖๖ ล้านบาท ภายใต้แผนการใช้จ่ายเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยแบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น ๑ ปี วงเงินกู้ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ ๐ ต่อปี และเงินกู้ระยะปานกลาง ๓ ปี วงเงินกู้ตั้งแต่ ๒๐,๐๐๑ - ๕๐,๐๐๐ บาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๐.๕๐ ต่อปี ซึ่งหลังจากที่ ส.ป.ก. ได้ประชาสัมพันธ์มาตรการความช่วยเหลือออกไปพบว่า มีพี่น้องเกษตรกรให้ความสนใจยื่นคำขอเงินกู้ระยะปานกลางมากถึง ๑,๖๖๔ ราย ใน ๒๒ จังหวัด วงเงินรวมกว่า ๖๐ ล้านบาท และสำนักบริหารกองทุน ส.ป.ก. ได้จัดสรรและโอนเงินให้ ส.ป.ก.จังหวัด เพื่อจ่ายเงินกู้ให้เกษตรกรเรียบร้อยแล้ว "อย่างไรก็ตาม พี่น้องเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินที่มีความประสงค์จะขอรับการช่วยเหลือจาก ส.ป.ก. ตามมาตรการดังกล่าวยังสามารถยื่นคำร้องขอได้ที่ ส.ป.ก.จังหวัดทุกแห่งจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้” เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวทิ้งท้าย
ข่าว : อภิริยา ยอดมาลี และธิดารัตน์ ซุ้ยขาว
ภาพ : สมเกียรติ ดีมั่น, ภาคีนัย กลิ่นกุล, อลงกรณ์ ซอนจำปา และสมชาติ รัตนมาลี