นายกฯ ประยุทธ์ มอบที่ดินแก่เกษตรกร ส.ป.ก. ช่วยแก้ปัญหาผู้ยากจนไร้ที่ดินทำกิน
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ เป็นประธานสักขีพยานในงานพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแก่สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบา จำกัด ณ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ โดยมี พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในการมอบหนังสืออนุญาต ดังกล่าว นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการ ส.ป.ก. นายธนู มีแสงเงิน รองเลขาธิการ ส.ป.ก. นางเปรมจิต สังขพงษ์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. นายสุริยน พัชรครุกานนท์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุทัยธานี ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
ในการนี้ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.กษ. ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแก่สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จากัด ณ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ให้แก่ประธานสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบปัจจัยการผลิตให้แก่ตัวแทนเกษตรกร เพื่อนำไปประกอบอาชีพต่อไป จากนั้นท่านนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังการบรรยายโมเดลการจัดที่ดินในโครงการฯ จากเลขาธิการ ส.ป.ก. และเยี่ยมชมบูธต่างๆ ภายในงาน รวมทั้งพบปะประชาชนที่มารอพบเป็นจำนวนมาก
โครงการดังกล่าว ส.ป.ก. ได้ดำเนินการจัดทั้งหมด 8 ชุมชน ซึ่ง ส.ป.ก. ได้ดำเนินการแล้ว 5 ชุมชน จำนวน ประมาณ 340 ราย และมีเกษตรกรลงแปลงแล้วจานวน 1 ชุมชน ส่วนที่เหลือ คาดว่าจะดำเนินการจัดที่ดินแล้ว เสร็จ ในเดือนพฤษภาคม 2559 โดยมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ จำนวนทั้งสิ้น 486 ราย เป็นพื้นที่จำนวนกว่า 3,239 ไร่ โดยมีหน่วยงานร่วมบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และส่งเสริมการเกษตรพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกร เช่น การจัดการระบบระบายน้าเพื่อการเกษตร โดยกรมชลประทาน ขุดสระเก็บน้าเพื่อการอุปโภคบริโภคโดยกรมพัฒนาที่ดิน ส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแบบมีตลาดรองรับ โดยกรมหม่อนไหม เป็นต้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า "การลงพื้นที่ จ.อุทัยธานีครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินให้แก่สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด อ.ลานสัก เป็นการเพิ่มศักยภาพให้ราษฎรสมาชิกสหกรณ์ใช้เป็นพื้นที่ทำกิน โดยหน่วยงานภาครัฐเข้ามาบูรณาการสนับสนุน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกร ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับกระบวนการสหกรณ์ ที่ยึดหลักการรวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อความกินดีอยู่ดี เศรษฐกิจฐานรากมีความเจริญมั่นคง ด้วยการเพิ่มศักยภาพของสหกรณ์ให้เข้มแข็ง มีบทบาทในการช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งของเกษตรกรอย่างแท้จริงและต้องการพัฒนากระบวนการสหกรณ์ให้โปร่งใสมากขึ้น โดยจะประกาศให้ปี 2559 เป็นปีแห่งการป้องกันการทุจริตในสหกรณ์ รวมทั้งจะส่งเสริมให้สหกรณ์เป็นกลไกเชื่อมโยงความต้องการของประชาชนในพื้นที่กับการสนับสนุนของรัฐบาลตามแนวทางประชารัฐ"