สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ผู้ตรวจราชการ ส.ป.ก. ประชุมตรวจติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานตามแผนการตรวจราชการของ ส.ป.ก. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 จังหวัดปทุมธานี และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรแปลงต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน การทำเกษตรอินทรีย์ ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดปทุมธานี

            วันพุธที่ 6 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. นายคมกฤษ  แป้นโพธิ์กลาง ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เขตตรวจราชการที่ 1, 2, 8 ประชุมติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานตามแผนการตรวจราชการของ ส.ป.ก. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดปทุมธานี โดยมี นางสาวฐิติมา  วัฒนาจัง  ปฏิรูปที่ดินจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยผู้อำนวยการกลุ่ม/หัวหน้าฝ่าย ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ และเข้าร่วมประชุมพร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรค ณ ห้องประชุม ส.ป.ก.ปทุมธานี 
             โอกาสนี้ ผู้ตรวจราชการกรม ได้ให้ข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปัญหา แนวทางการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งกำชับให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีความสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และได้ให้ขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ผลการปฏิบัติงานสำเร็จตามแผนงาน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราชการและเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินต่อไป
             เวลา 13.30 น. ผู้ตรวจราชการกรม พร้อมด้วยปฏิรูปที่ดินจังหวัดปทุมธานี ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรแปลงต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน การทำเกษตรอินทรีย์ แปลงที่ดินสวนเจริญรัตน์ของนายสินธิพงศ์  ธนะโชคษิณพงษ์ ตั้งอยู่ที่ 27 หมู่ 6 ตำบลหนองสามวัง อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นที่ดินพระราชทานมีเนื้อที่ 29-3-90 ไร่ เริ่มแรกเป็นการทำเกษตรแบบเชิงเดี่ยว ทำนาข้าวเป็นหลัก แต่ผลผลิตตกต่ำ จึงปรับเปลี่ยนจากการทำนาเป็นการขุดยกร่องสวน ปลูกผลไม้หลายหลายชนิด เช่น กล้วยน้ำว้า มะม่วงหลากหลายสายพันธุ์ มะยงชิด มะปรางหวาน ขนุน ทุเรียน มะพร้าวน้ำหอม มังคุด ละมุด มะไฟ ส้มโอทับทิมสยาม และขายหน่อพันธุ์กล้วยหลากหลายสายพันธุ์ เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยไข่ กล้วยหอม กล้วยทำไท กล้วยน้ำว้ายักษ์ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และทำเกษตรอินทรีย์ ใช้น้ำหมักชีวภาพในการดูแลบำรุงผลผลิตทั้งหมด ซึ่งเป็นผลดีและปลอดภัยต่อตนเองและผู้บริโภค ยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เกษตรเชิงท่องเที่ยวและเกษตรกรรมยั่งยืน ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการทำสวนผสม การปลูกพืชผักผลไม้ ให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ที่สนใจการทำเกษตรกรรมยั่งยืน สามารถสร้างรายได้โดยผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป จำนวน 424,100 บาท/ปี
   
 ข่าว/ภาพ : นางสาวสิริญา  โภชน์เจริญ / ส.ป.ก.ปทุมธานี
ประสานข้อมูล : พีรญา  ทิพโชติ