เมษายน 27, 2565 | ข่าวกิจกรรม
ส.ป.ก.เข้าร่วมโครงการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วม สำนักงาน ปปง. ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒
ด้วยข้าพเจ้านายสนธยา ทองดี ตำแหน่ง นิติกรชำนาญการ กลุ่มส่งเสริมคุณธรรมและงานวินัยกองการเจ้าหน้าที่ ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าร่วมโครงการของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ณ สถานที่ โรงแรม พูลแมน จี พัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ ๒ – ๔ มีนาคม ๒๕๖๕ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ ได้บัญญัติความผิดมูลฐาน (๕) ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติรรมประวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น
ซึ่งในการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้มีการซักซ่อมความเข้าใจและรายละเอียดกรณีหากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในสังกัด หากหน่วยงานพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ต้องรายงานให้สำนักงาน ปปง.ทราบ แต่หากพบการกระทำความผิดโดยหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) หรือสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) หน่วยงานนั้น ๆ เป็นผู้รายงานเอง ทั้งนี้ ในการสัมมนาดังกล่าวผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ท. ได้กล่าวว่า ได้มีการส่งเรื่องไปยังสำนักงาน ปปง. ต่อมา สำนักงาน ปปง. ได้แจ้งกลับว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากยังไม่มีการชี้มูลจากสำนักงาน ป.ป.ท. โดยทางผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ท. มองว่าเป็นการใช้เวลานานอาจมีผลกระทบให้ทรัพย์สินได้รับการโยกย้าย และสำนักงาน ปปง. ชี้แจงว่าอยากให้หน่วยงานที่ส่งเรื่องต้องมีพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่ามีการกระทำผิดมูลฐานจริงและมีการได้ไปซึ่งทรัพย์สิ้นจากการกระทำความผิดนั้น แต่หากมีการชี้มูลแล้วย่อมทำให้การดำเนินการสัมฤทธิ์ผลได้ดีมากขึ้น ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าการฟอกเงินที่มากที่สุดคือการทุจริต ดังนั้น สำนักงาน ปปง.จึงมีการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการในการปฏิบัติงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาและอุปสรรคระหว่างหน่วยงาน