มีนาคม 27, 2566 | ภาพข่าว
วันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 08.00 น. นายวินัย จะระนิล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดอ่างทอง ข้าราชการ และพนักงานราชการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดอ่างทอง เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาสดุดีนายดอกและนายทองแก้ว เนื่องในงาน "สดุดีวีรชนแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ" ประจำปี 2566 เพื่อรำลึกและเทิดทูนเกียรติประวัติวีรกรรมความกล้าหาญ เสียสละ ของวีรชนแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ที่ได้ต่อสู้ปกป้องชาติ แผ่นดิน ด้วยชีวิต และเลือดเนื้อ เพื่อรักษาแผ่นดินไว้ให้แก่ลูกหลาน อันเป็นวีรกรรมที่ภาคภูมิใจของชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง เหตุการณ์ที่สำคัญยิ่งของวีรชนแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ที่ได้มีการจารึกไว้ คือ ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ปีพุทธศักราช 2308 พม่าได้ยกกองทัพลงมาตีกรุงศรีอยุธยา โดยแบ่งเป็น 2 กองทัพ คือ กองทัพฝ่ายเหนือ มีเนเมียวสีหบดี เป็นแม่ทัพ และกองทัพฝ่ายใต้ มีมังมหานรธา เป็นแม่ทัพ กองทัพพม่าได้ตีหัวเมืองต่างๆ ตามเส้นทางเคลื่อนทัพ พร้อมทั้งปล้นทรัพย์สมบัติ และทำร้ายชีวิตผู้คนมาตลอดเส้นทางเดินทัพ จนมาถึงแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ นายดอก และนายทองแก้ว ชาวบ้านแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ จึงร่วมมือกับวีรชนคนกล้าแห่งบ้านสีบัวทอง อีก 4 คน คือ นายแท่น นายโชติ นายอิน และนายเมือง รวบรวมผู้คนและอาวุธทำการต่อสู้และลวงพม่าไปฆ่าตายเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยทหารพม่ามีจำนวนมาก นายดอกและนายทองแก้ว พร้อมกับพวก จึงได้พากันไปสมทบที่บ้านบางระจัน ซึ่งมีชัยภูมิที่ตั้งเหมาะแก่การตั้งค่ายสู้รบ โดยเข้านมัสการเป็นศิษย์พระอาจารย์ธรรมโชติ แห่งวัดโพธิ์เก้าต้น และร่วมกับหัวหน้าคนไทย อีก 5 คน คือ ขุนสรรค์ พันเรือง นายทองเหม็น นายจันหนวดเขี้ยว และนายทองแสงใหญ่ ร่วมกันต่อสู้กับกองทัพพม่าอย่างกล้าหาญถึง 8 ครั้ง นานกว่า 5 เดือน จึงเสียค่ายและเสียชีวิตลง ณ ค่ายบางระจัน ณ อนุสาวรีย์นายดอก นายทองแก้ว หมู่ที่ 2 ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง