จากเหตุการณ์เกิดการเปลี่ยนฤดูกาลในประเทศอินโดนีเซีย จากฤดูร้อนเป็นฤดูฝนในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ผลผลิตพริกในอินโดนีเซียมีปริมาณลดลง ประกอบกับแหล่งผลิตบนเกาะสุมาตราได้รับผลกระทบจากการระเบิดของภูเขาไฟ และได้ผ่านพ้นฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้ว ส่งผลให้เกษตรกรที่เพาะปลูกพริกของอินโดนีเซียไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากผลผลิตพริกเสียหายมากจากการเปลี่ยนฤดูกาล ซึ่งปีนี้ค่อนข้างแล้ง และค่อนข้างมีฝนตกหนัก ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวพริกได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณการผลิตเมื่อเทียบกับฤดูกาลปกติ และปริมาณพริกในตลาดลดลง ส่งผลให้ราคาพริกในอินโดนีเซียมีราคาสูงขึ้นอย่างมาก และสินค้าอุปโภค บริโภคหลายชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงจาการ์ตา กล่าว ทางการอินโดนีเซียคงจะอนุญาตให้มีการนำเข้าพริกและหอมแดงจากต่างประเทศมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนอินโดนีเซียได้บริโภคสินค้าที่มีราคาถูกลงซึ่งนั่นก็หมายถึงโอกาสของประเทศไทยในการส่งพริกและหอมแดงได้มากขึ้นในปี 2558 นี้ สำหรับประเทศไทยนั้นในแต่ละปีมีมูลค่าการค้าพริกโดยรวมประมาณ 3,324.67 ล้านบาท โดยส่งออกมากถึง 2,597.95 ล้านบาท โดยตลาดหลักอยู่ที่หลายประเทศและหนึ่งในนั้นก็มีอินโดนีเซีย ที่เฉลี่ยนำเข้าพริกจากประเทศ ไทยไม่น้อยกว่า 54 ตันต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากการบริหารเพื่อการตลาดและการผลิตที่ได้คุณภาพของพริก ตลอดถึงการลดต้นทุนในการผลิตพริกของไทยมีน้อย โอกาสที่จะเสียตลาดนี้ไปให้กับประเทศเวียดนาม อินเดีย และฟิลิปปินส์ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะการนำเข้าพริกของอินโดนีเซียจากต่างประเทศราคาจึงเป็นเงื่อนไขหลัก แหล่งอ้างอิง www.dailynews.co.th, 21 ม.ค. 2558