โดยการเยือนครั้งนี้ของนายเหวียน เติ๊น หยุง จะเป็นประธานร่วมกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนามอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 โดยครั้งนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตของไทยและเวียดนาม ในปี 2559 สำหรับมูลค่าทางการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศเวียดนามนั้น ทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้ามูลค่าการค้าเพิ่ม 15,000 ล้านบาทในปี 2020 โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมเดินหน้าหาช่องทางในการขยายการค้าระหว่างกัน โดยใช้ประโยชน์เพื่ออำนวยความสะดวกและผลักดันให้มีการส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างกันมากขึ้นโดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ได้แก่ ข้าว และยางพารา ขณะที่ด้านการลงทุน จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอให้หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนสองฝ่าย พิจารณาจัดตั้งกลไกหรือคณะทำงานส่งเสริมและคุ้มครองด้านการลงทุนระหว่างกัน เพื่อใช้ความตกลงด้านการลงทุนที่มีอยู่ เช่น ความตกลงคุ้มครองการลงทุน และอนุสัญญายกเว้นการเก็บภาษีซ้อนให้ได้ประโยชน์สูงสุด และส่งเสริมให้ธนาคารไทยมาเปิดสาขาในเวียดนามมากขึ้น ด้านการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ในการเยือนประเทศเวียดนามของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อพ.ย. 2557 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งที่จะช่วยทำให้การรวมกลุ่มของอนุภูมิภาคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ โดยให้ความสำคัญในการใช้ประโยชน์จาก เส้นทาง R8 R9 และ R12 เชื่อมต่อไทย ลาวและเวียดนาม โดยฝ่ายไทยจะขอเสนอ เปิดบริการรถโดยสารในเส้นทางระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย นอกจากนี้ จะเป็นการกระตุ้นการค้าและการลงทุนแล้ว ยังจะเพิ่มการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคโดยรวมด้วย นอกจากนี้ ยังให้สายการบินต้นทุนต่ำเปิดเส้นทางการบินใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นโอกาสทางธุรกิจของสายการบินเองและช่วยสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน และนักธุรกิจของทั้งสองประเทศ รวมทั้งให้มีการพัฒนาการเดินเรือตามแนวชายฝั่ง เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของการท่องเที่ยวระหว่างกัน ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม จะมีความเข้มแข็งในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ต้องดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการความเป็นหุ้นส่วนปี 2014-2018 เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ แก่อาเซียน และภูมิภาคโดยรวม อ้างอิง www.krobkruakao.com, 8 เมษายน 2558