"อะไรที่มากไปก็ไม่ดี อะไรที่น้อยไปก็ไม่ดี” บริบทนี้เรากำลังจะพูดกันถึงเรื่อง "ความหวาน” ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในรสชาติอาหารการกินของคนไทยมาอย่างยาวนาน ก็เพราะว่า "ความหวาน” ที่มากไปนี่ล่ะ ที่ทำให้คนกินเข้าไปเกิดอาการเจ็บป่วยและนำมาสู่การเป็นโรคต่างๆ ตามมา ลองนึกดูว่า...ความหวานอยู่ในอาหารแบบไหนในชีวิตประจำวันของเราบ้าง เช่น กาแฟ น้ำอัดลม นมเปรี้ยว ชาเขียว นมเย็น โกโก้ ขนมปัง เค้ก ฮันนี่โทสต์ และอาหารแทบทุกชนิด ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกบอกว่า ความหวานที่พอดีกับชีวิตประจำวันของเราคือ ไม่เกิน 4-6 ช้อนชา!! แต่ในอาหารแต่ละชนิดที่ว่ามานั้นส่วนใหญ่เกิน 6 ช้อนชาทั้งสิ้น!!
มาดูกันว่าเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อ มีน้ำตาลซ่อนอยู่เท่าไหร่
- น้ำส้ม 25% น้ำตาล 11.2 ช้อนชา / 44.8 กรัม
- น้ำอัดลม น้ำตาล 8.7 ช้อนชา / 34.8 กรัม
- ชาเขียวรสน้ำผึ้ง (กล่อง) น้ำตาล 7.5 ช้อนชา / 30.0 กรัม
- เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำตาล 7.5 ช้อนชา / 30.0 กรัม
- นมเปรี้ยวขวดเล็ก น้ำตาล 4.4 ช้อนชา / 17.6 กรัม
- กาแฟกระป๋อง น้ำตาล 4.3 ข้อนชา /17.2 กรัม
แค่น้ำขวดเล็กๆ เพียง 1 ขวด ก็ทำให้เรากินน้ำตาลมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันแล้ว ที่แย่กว่านั้นคือ เมื่อน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน แต่ถ้ามากเกินไปจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม ในร่างกาย สรุปง่าย ๆ ว่า ถ้าเรากินน้ำตาลมากเกินไปความอ้วนก็จะถามหาแน่นอน แต่ไม่ใช่แค่ความอ้วนอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยิ่งไขมันมาก ยิ่งกระทบต่ออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น
- หัวใจ ไขมันอุดตันในหลอดเลือด ทำให้หัวใจต้องสูบฉีดแรงขึ้น
- ตับ ไขมันช่องท้อง ขัดขวางการเผาผลาญน้ำตาลในเซลล์ตับ จึงต้องทำงานหนักมากขึ้นในการผลิตอินซูลิน
- สมอง ไขมันสะสมตามผนังเส้นเลือด เกิดโรคเส้นเลือดในสมองตีบและอาจเสียชีวิตกะทันหันได้
- ปอด ไขมันช่องท้องเพิ่มขึ้น ทำให้ปอดขยายตัวไม่เต็มที่ส่งผลให้ระบบหายใจผิดปกติ
- ถุงน้ำดี ไขมันช่องท้องทำให้น้ำดีมีภาพข้น และเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
- หัวเข่า ไขมันช่องท้อง และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้เข่าต้องรับน้ำหนักมากขึ้น เกิดข้อเข่าเสื่อม
สำหรับอาหารป้องกันการอ้วนลงพุง และทำให้ห่างไกลโรค เช่น
- กล้วย ช่วยลดความเครียด ควบคุมอารมณ์ ช่วยป้องกันท้องผูกอีกด้วย
- ผลไม้ตระกูลส้ม มีวิตามินซีสูง ป้องกันไข้หวัด และมีใยอาหารสูง
- มะเขือเทศ มีสารไลโคปีนป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ลดความเสี่ยงในการเป็นหลอดเลือดสมอง
- ข้าวซ้อมมือ หรือ ข้าวกล้อง มีใยอาหารช่วยในการขับถ่าย
- ฟักทอง หรือพืชตระกูลหัวชนิดต่างๆ ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์
- ธัญพืช เช่น ถั่วต่างๆ ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมัน ลดความดันโลหิต บำรุงสมอง
- ไข่ โปรตีนจากไข่จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ในไข่ยังมีแคลอรี่ต่ำ ย่อยง่าย มีธาตุเหล็กสูงป้องกันโลหิตจาง
- ปลา มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจ ลดไขมันในเลือด
แค่เพียงเราเลือกที่จะกินอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย ใส่ใจการเลือกกินอาหารสักนิด โรคต่างๆ จะรีบวิ่งหนีหายไปจากชีวิตเรา ไม่ต้องรอให้เราเจ็บป่วยก่อนถึงจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลงมือทำตั้งแต่วันนี้ สะสมสิ่งมีประโยชน์และมีคุณค่ากับร่างกายเรา
"เมื่อเรารักร่างกายเรามากพอ ร่างกายก็จะตอบแทนความรักดีๆ ที่เรามีให้อย่างดีเช่นกัน"