Agricutural Land Reform Office

ส.ป.ก. ประชุมรับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียม เกี่ยวกับการยินยอมหรืออนุญาตใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน

ธันวาคม 17, 2564 | กิจกรรม ส.ป.ก.

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ร่วมกับ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียม เรื่อง การดำเนินการขอความยินยอมหรืออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในระหว่างวันที่ ๑๖ - ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ ณ ห้องประชุมอู่ทอง โรงแรมคลาสสิค คามิโอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสุริยน พัชรครุกานนท์, นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการ ส.ป.ก. และ นายสมบูรณ์ วัชระชัยสุรพล รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ จากนั้น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้รายงานขั้นตอนการใช้พื้นที่ในเขตสัมปทานการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และการรื้อถอนพื้นที่ ซึ่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ภายใต้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้กำกับดูแลการดำเนินการทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มจนถึงปิดโครงการ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่จาก ส.ป.ก. ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านพลังงานเข้าร่วมการประชุม ประกอบไปด้วย บริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด (PTTEP SIAM) บริษัท ซีเอ็นพีซีเอชเค (ไทยแลนด์) จำกัด (CNPCHK) บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (ECO) และบริษัท อพิโก้ (โคราช) จํากัด (APICO) เข้าร่วมการประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นและร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาในการดำเนินการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

สำหรับการขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมนั้น ปัจจุบันพบกับปัญหาอุปสรรคด้วยกัน ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มผู้รับสัมปทานก่อนวันที่คำสั่งหัวหน้า ค.ส.ช. ที่ ๓๑/๒๕๖๐ ใช้บังคับ คือก่อนวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๐ ซึ่งประสบปัญหาค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดิน และปัญหาการทับซ้อนของพื้นที่ป่าในเขตปฏิรูปที่ดิน และกลุ่มของผู้ที่จะได้รับสัมปทานหลังวันที่คำสั่งหัวหน้า ค.ส.ช. ที่ ๓๑/๒๕๖๐ ใช้บังคับ ทำให้เกิดปัญหาไม่มีกฎหมายใดในการใช้อนุญาตการดำเนินการในเขตปฏิรูปที่ดิน ส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตปิโตรเลียม และไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อสร้างสถานีผลิตและแนวท่อขนส่งปิโตรเลียมที่สำรวจพบได้ ทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์จากเงินค่าภาคหลวงที่กระจายสู่ท้องถิ่น และกระทรวงการคลังเข้าเป็นรายได้แผ่นดินลดลง จึงได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นร่วมกันระหว่าง ส.ป.ก. กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านพลังงานประชุมหาทางออกร่วมกัน เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้องในการดำเนินงาน และ ส.ป.ก. มีเงินรายได้เข้ากองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมถึงเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ดำเนินการได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมต่อไป

ข่าว / ภาพ : อดิราช ท้วมละมูล